หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บริการของเรา
คลังความรู้
ติดต่อเรา
วางแผนภาษี ด้วยการทำประกันคีย์แมน
ประกันคีย์แมนเป็นประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องธุรกิจจากความสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการเสียชีวิตหรือความพิการของพนักงานหลักหรือคีย์แมนของบริษัท ประกันคีย์แมนสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
โดยตามหลักการแล้ว การเตรียมการเพื่อเสียภาษีจากการทำประกันคีย์แมน โดยศึกษาระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ และมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้เสียภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน สมเหตุสมผล และเหมาะสมที่สุด ดังนั้นหลังจากที่รู้แล้วว่าธุรกิจของคุณจัดอยู่ในรูปแบบการคำนวณภาษีเงินได้ประเภทบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล เรามาดูการ วางแผนภาษี จากการทำประกันคีย์แมนว่ามีวิธีการอย่างไร
การวางแผนภาษี เงินได้นิติบุคคล
ภาษีนิติบุคคล เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งรูปแบบของนิติบุคคล จะมีข้อดีเรื่องอัตราภาษีที่คงที่มากกว่าแบบบุคคลธรรมดา (อัตราขั้นบันไดตั้งแต่ 5 – 35%) แต่จะยุ่งยากเรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆ และการจัดการทางด้านบัญชี เพื่อแสดงแก่กรมสรรพากร ดังนั้น การทำประกันคีย์แมนให้กับบุคคลสำคัญของบริษัท จึงจำเป็นต้องมีการ วางแผนภาษี นิติบุคคลให้ดีเพื่อประโยชน์ของบริษัท
โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล จะใช้สูตรคือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ X อัตราภาษีนิติบุคคล (หักค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด กล่าวคือ ใช้งบมาก เพื่อให้มีกำไรต่ำ และเสียภาษีต่ำลง) โดยเริ่มจากนำ
- รายได้ ก่อนหักภาษี ทั้งหมดของกิจการ
- ค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องเป็นค่าใช้จ่าย เฉพาะที่สรรพากรยอมรับให้เป็นค่าใช้จ่ายนำมาหักลบได้ คือไม่เข้าเกณฑ์ค่าใช้จ่ายต้องห้าม เช่น ที่ดิน อาคาร เงินเดือน โบนัส ใบเสร็จรับเงิน เครื่องใช้สำนักงาน เบี้ยประกันคีย์แมน เป็นต้น
- อัตราภาษี เมื่อได้กำไรสุทธิแล้วให้นำมาเปรียบเทียบกับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท + รายได้ทั้งปีไม่เกิน 30 ล้าน
การวางแผนภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไปที่มีเงินได้ไม่ว่าประเภทใด ชนิดใด ถ้าไม่มีกฎหมายยกเว้นให้แล้วก็อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี หรือคือภาษีที่จัดเก็บจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษตามที่กฎหมายกำหนด และมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด
โดยมีวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะใช้สูตรคือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย (วิธีนี้สำหรับรายได้ที่ไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อปี) (หักค่าลดหย่อนให้มากที่สุด)
– รายได้ คือการนำรายได้ทั้งหมดตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้างจากช่องทางอื่นๆ หรือหากเป็นการค้าขายทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ที่มีการทำบัญชีตลอด ก็จะทราบรายได้ของตนเองอยู่แล้ว
-ค่าใช้จ่าย รายได้ทั้งปีหักลบค่าใช้จ่าย
-ค่าลดหย่อน เบี้ยประกัน ค่าลดหย่อนส่วนตัว ประกันสุขภาพบิดามารดา
ดังนั้นหลักการวางแผนภาษีบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวกับการทำประกันคีย์แมน
คือ เบี้ยประกันที่นิติบุคคลออกให้กรรมการ กรรมการจะต้องนำเบี้ยประกันชีวิตที่บริษัทชำระค่าเบี้ยประกันให้ มารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาในปีที่มีการชำระเบี้ยประกันชีวิตให้ ซึ่งกรรมการจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็สามารถที่จะออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับกรรมการได้ (ข้อมูลจาก https://www.rd.go.th/62336.html)
ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล การทำประกันคีย์แมนควรมี การวางแผนภาษี ซึ่งภาระภาษีประกันคีย์แมนจะถูกเรียกเก็บจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป โดยอัตราภาษีจะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจและสถานะของผู้เอาประกันภัย สำหรับธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลภาษีจากการทำประกันคีย์แมนจะถูกเรียกเก็บในอัตรา 20% ของเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป โดยภาษีนี้จะถูกหัก ณ ที่จ่าย และนำส่งให้กับกรมสรรพากรโดยบริษัทประกันภัย
และในส่วนธุรกิจที่เป็นบุคคลธรรมดา ภาษีประกันภัยคีย์แมนจะถูกเรียกเก็บในอัตรา 10% ของเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป โดยภาษีนี้จะถูกหัก ณ ที่จ่าย และนำส่งให้กับกรมสรรพากรเช่นกัน หากเจ้าของกิจการไม่แน่ใจเกี่ยวกับการวางแผนภาษีประกันคีย์แมน แนะนำให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่บัญชีภาษีผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง