ผู้ประกอบการจด vat เข้าระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
ทำได้กี่แบบ

เป็นที่ทราบกันดีว่ากรมสรรพากรได้พัฒนาระบบบริการจัดทำ และนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการระบบภาษี โดยพัฒนาระบบการชำระเงินให้สามารถรองรับธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร เพื่อผลักดันให้ระบบการชำระเงินและระบบภาษีของประเทศก้าวสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล

ดังนั้น e-Tax Invoice & e-Receipt จึงเป็นระบบบริการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวกและป้องกันการสูญหาญได้ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการจด vat เป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการต้องจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล ที่มีความปลอดภัยและเป็นมาตรฐานสากล และนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร

ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt จะเป็นมาตรฐานที่มีผลทางกฎหมาย โดยจะต้องระบุหมายเลขใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ และลายมือชื่อดิจิทัลเป็นเครื่องยืนยันตัวตนของผู้ออกใบกำกับภาษี และรับรองถึงความถูกต้องของข้อมูล

โดยผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
(e-Tax Invoice & e-Receipt) คือผู้ประกอบการที่ขอจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

- เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือมีหน้าที่ออกใบรับ
- มีใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
- มีระบบควบคุมภายในที่ดี โดยมีวิธีการสร้าง ส่ง และเก็บรักษาข้อมูลที่เชื่อถือได้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจดทะเบียน vat สามารถขอลงทะเบียนเข้าระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้ 2 แบบด้วยกัน ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การขอเป็นผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษี หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
การจัดทำใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบ บ.อ.01 ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ด้วยใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Ultimate Sign & Viewer โดยไม่ต้องนำส่งเอกสารและอนุมัติทันที โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. จัดหาใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
2. ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม Ultimate Sign & Viewer ผ่านเว็บไซต์ https://etax.rd.go.th
3. เชื่อมต่อและตั้งค่าอุปกรณ์ Token หรือ HSM ที่จัดเก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
4. ลงทะเบียนผ่านโปรแกรมฯ
5. ตรวจสอบอีเมลและสร้างบัญชีและสร้างบัญชีผู้ใช้งาน ภายใน 15 วัน
6. ประกาศรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิฯ บนเว็บไซต์กรมสรรพากร และตรวจสอบอีเมลแจ้งสิทธิการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการขอเป็นผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษี หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt)
กรณีที่มอบหมายผู้ให้บริการฯ (Service Provider Advance) ระดับสูง จัดทำและนำส่งข้อมูลแทน และไม่ประสงค์จัดหาใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ในนามตน โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ติดต่อผู้ให้บริการฯ (Service Provider Advance) เพื่อมอบหมายให้จัดทำและนำส่งใบกำกับภาษีหรือใบรับแทน
2. บันทึกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://etax.rd.go.th
3. ตรวจสอบและยืนยันอีเมลตามที่บันทึกไว้ ภายใน 15 วัน
4. รอการตอบรับจากผู้ให้บริการฯ (Service Provider Advance) ที่มอบหมายเป็นตัวแทนจัดทำและนำส่งข้อมูลตามที่แจ้งไว้ (หมายเหตุ กรณีผู้ให้บริการปฏิเสธการบริการ จะไม่สามารถลงทะเบียนได้)
5. ตรวจสอบอีเมลและดาวน์โหลด แบบ บ.อ.01 และข้อตกลง เพื่อลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนาม และประทับตรา (ถ้ามี)
6. ยื่นแบบ บ.อ.01 และข้อตกลงต่อกรมสรรพากร พร้อมเอกสารประกอบ (ถ้ามี) ภายใน 15 วัน
7. ตรวจสอบอีเมลและสร้างบัญชีผู้ใช้งาน ภายใน 15 วัน
8. ประกาศรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิฯ บนเว็บไซต์กรมสรรพากร และตรวจสอบอีเมลแจ้งสิทธิการใช้งาน
9. แจ้งการเลือกใช้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูล และผู้ให้บริการฯ (Service Provider Advance) ที่เป็นตัวแทนผ่านระบบบริการด้วยบัญชีผู้ใช้งาน

ดังนั้น แนวทางการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับ ทั้ง 2 รูปแบบ เป็นระบบบริการที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการ โดยสามารถเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจของตนเองได้ ซึ่งหากมีธุรกิจขนาดใหญ่ ควรเลือกใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกนำมาบูรณาการใช้ให้เข้ากับกิจการนี้จะอำนวยความสะดวกให้กับกิจการได้เป็นอย่างดี แต่หากเจ้าของกิจการไม่แน่ใจว่าได้จัดทำถูกต้องหรือไม่ สามารถปรึกษาสำนักงานบัญชีก่อนได้เช่นกัน