- การสูญเสียบุคคลสำคัญ :
หากบุคคลที่มีบทบาทสำคัญเสียชีวิตหรือเกิดทุพพลภาพถาวร ธุรกิจอาจประสบปัญหาในการบริหารงาน เงินประกันที่ได้รับสามารถนำมาใช้ในการจัดหาบุคคลทดแทน หรือชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป

- ค่าใช้จ่ายในการจัดหาบุคลากรทดแทน :
การสรรหาและฝึกอบรมบุคคลใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูง เงินประกันสามารถช่วยลดภาระในส่วนนี้ได้

- การบริหารหนี้สิน :
หากธุรกิจมีภาระหนี้สินที่อาจเสี่ยงต่อการผิดชำระ การได้รับเงินประกัน Keyman จะช่วยเสริมสภาพคล่องและลดภาระดอกเบี้ยได้

- การสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้าและนักลงทุน :
การมีประกัน Keyman แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่รอบคอบ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสถาบันการเงิน

สิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประกัน Keyman

นอกจากการบริหารความเสี่ยงแล้ว ประกัน Keyman ยังมีข้อดีด้านภาษีที่ช่วยให้บริษัทบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ :

1. การหักค่าใช้จ่ายจากเบี้ยประกัน
- บริษัทเป็นผู้ถือกรมธรรม์และเป็นผู้รับผลประโยชน์ : หากผู้รับผลประโยชน์เป็นตัวบุคคล จะไม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้
- ลักษณะของกรมธรรม์ : ต้องเป็นประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุที่ไม่มีองค์ประกอบของการลงทุนหรือการสะสมทรัพย์
- ระยะเวลาของกรมธรรม์ : กรมธรรม์ควรมีระยะเวลาคุ้มครองไม่เกิน 10 ปี เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร

2. การจัดการภาษีจากเงินประกันที่ได้รับ
- กรณีที่บริษัทได้รับเงินประกัน Keyman จากการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ เงินที่ได้รับจะถือเป็นรายได้ของบริษัท ซึ่งต้องนำไปรวมในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

3. การบริหารเงินสดและภาระภาษี
- เงินประกันที่ได้รับสามารถนำไปบริหารจัดการภาระหนี้ หรือใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจ โดยช่วยลดความจำเป็นในการกู้ยืมเงินที่อาจมีต้นทุนดอกเบี้ยสูง